เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

เราช่วยคุณได้

0926295954

Travel License : 11/05662

หน้าแรก

/

ข้อมูลท่องเที่ยว

/

เที่ยวเวียดนาม

สองสิ่งอันน่าอัศจรรย์ “ทริปเวียดนาม”ทริปท่องเที่ยวประจำปีเพื่อคลายร้อน

สองสิ่งอันน่าอัศจรรย์ “ทริปเวียดนาม”ทริปท่องเที่ยวประจำปีเพื่อคลายร้อน

297

หน้าร้อนปีหน้าใครคิดที่จะเดินทางเที่ยวผมว่าเราไม่ต้องหาที่เที่ยวให้ยากนะครับ แค่มองดูละแวกบ้านเราก็ได้ไม่ต้องไปเที่ยวที่ไกล ๆเปลืองค่าเดินทางประหยัดทั้งเวลาและเงินในกระเป๋าอีกต่างหาก ทริปที่ผมอยากจะเสนอให้ผู้อ่านได้อ่านเผื่อบางทีสนใจที่จะไปเที่ยวเพื่อพักผ่อนคลายเครียดจากการงาน นั่นคือ“ ประเทศเวียดนาม”ความน่าอัศจรรย์ของดินแดงแห่งนี้ก็จะเป็นสภาพแวดล้อมบ้านเรานี่แหละ มีทั้งทะเล ภูเขา สถานที่ทางประวัติศาสตร์ บทความนี้จะขอเสนอเรื่องราวต่าง ๆที่ผมได้พบมาเพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจในการท่องเที่ยวที่ประเทศเวียดนามทั้งหาดฮาลองเบย์ สถานที่ประวัติศาสตร์ และอื่นอีกมากมาย ประเทศ “ เวียดนาม”เป็นดินแดงที่มีประวัติศาสตร์ของการต่อสู้ที่เรารู้จักกันดีวีรบุรุษที่ชื่อ โฮจิมินห์ หลังจากที่เขาผู้นี้ต่อสู้กับการรุกรานของอเมริกาในช่วงสงครามเวียดนามจนสามารถเอาชนะชาติอเมริกาและชาติพันธมิตร ปัจจุบันนี้ได้มีการสถาปนาอนุสรณ์สถานที่ท่องเที่ยวของ “โฮจิมินห์” เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ชนรุ่นหลังที่ต้องการไปเยี่ยมชมสถานที่ประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจจะลืมเลือน สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ฮานอย ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม แต่หากใครที่ต้องการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแล้ว เวียดนาม เป็นอีกประเทศที่มีดินแดงติดต่อกับชายแดนทะเล บางแห่งนั้นเป็นแหล่งที่สวยงามเลยแห่งหนึ่งที่เราสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ ซึ่งผมก็มีขอเสนอทริปท่องเที่ยวหากใครสนใจนั่นคือ ท่องเที่ยวเดินทางไปยังเกาะ“ฮาลองเบย์”ซึ่งเป็นทะเลที่สวยงาม วิธีการเดินทางสามารถเดินทางได้หลายทางทั้ง รถมินิบัส รถโดยสารประจำทาง รถยนต์ ซึ่งห่างจากตัวเมืองฮานอยประมาณ 170 กิโลเมตร มีสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์มากจนยูเนสโกได้บันทึกว่าเป็นมรดกเลยที่เดียว ด้วยความสวยงามจากแหล่งธรรมชาติที่มียังคงรักษาไว้ถึงอุดมสมบูรณ์ทางทะเลที่มีให้เราได้เห็นอย่างตื่นตาตื่นใจกับสิ่งเหล่านี้มีปลาหลายพันธุ์ อีกทั้งมีจุดเด่นที่มีเกาะหินปูนโผล่ขึ้นกระจายทั่วอ่าว เห็นแล้วสวยงามสะดุดตายิ่งหนัก ถัดมานั่นเวียดนามยังมีชุมชนโบราณรู้จักกันดีในนาม “เมืองเก่าฮอยอัน” ซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ฝั่งทะเลจีนใต้ โดยที่สภาพของเมืองนั้นยังคงสภาพเดิม ๆอยู่ตั่งแต่ตัวอาคารของบ้านเรือนและโคมไฟที่ประดับตามเรือนบ้านต่าง ๆ อีกทั้งการเดินทางก็สะดวกทั้งเดินทางเท้า ปั่นจักรยาน แล้วแต่คนชอบ ส่วนเรื่องอาหารการกินนั้นไม่ต้องห่วงเลยครับ ส่วนมากนั้นจะเป็นอาหารทะเลซึ่งเป็นของโปรดของชาวเวียดนามเลยที่เดียว เพราะเป็นประเทศที่ติดอยู่กับชายฝั่งทางทะเล รองลงมานั้นเป็นเนื้อหมูและเนื้อวัว การกินอาหารจะแยกข้าวกับกับ และมีการใช้ตะเกียบในการกินอาหาร โดยที่เมนู “ปอเปี๊ยะเวียดนาม” ถือเป็นเมนูประจำชาติที่ต้องลอง โดยที่นำแผ่นแป้งจากข้าวเจ้ามาห่อใส่เนื้อไก่บ้าง เนื้อหมู วัว บ้าง ถือว่าอร่อยถูกปากติดใจแน่นอน

เรียนรู้ประเทศเวียดนามผ่านวัฒนธรรม

เรียนรู้ประเทศเวียดนามผ่านวัฒนธรรม

310

ชุดอ๊าวส่ายพร้อมกับหมวกกลมก้นแหลมเป็นกลวย เป็นชุดประจำชาติของชาวเวียดนามและเมื่อใดที่พบเห็นผู้คนที่แต่งกายลักษณะนี้ย่อมเป็นเอกลักษณ์บ่งบอกได้ว่าเป็นชาวเวียดนามนั่นเอง นอกจากการแต่งกายแล้วก็ยังคงมีสิ่งอื่นๆที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เอาเป็นว่าเราไปเรียนรู้กันเลยดีกว่าว่าประเทศเวียดนาม นั้นจะมีวัฒนธรรมในรูปแบบใดกันบ้าง ประเทศเวียดนามก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่อยู่ในบริเวณของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีวัฒนธรรมมายามนานหลายทศวรรษเช่นกัน ผู้คนในประเทศเวียดนามมักจะมีอาหารการกินที่คล้ายๆกับจีนและไทยเรา อาหารเวียดนามที่เหมือนไทยก็จะเป็นลักษณะที่มีรสชาติเผ็ด คล้ายอาหารจีนเช่นกัน มีการห่อใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวและอาหารที่มีเส้นมาเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารก็มีมากมายอย่างเช่นพวก ก๋วยเตี๋ยวปกติทั่วไป และที่หลายคนรู้จักเจ้า ก๋วยเตี๋ยวยวน หรือเรียกกันเองว่า กวยจั๊บยวน ก็มีที่มามาจากอาหารเวียดนามนั่นเอง อาหารการกินเวียดนามอื่นๆนั้นก็จะมีเน้นสิ่งที่ขึ้นชื่อเพื่อเป็นที่รู้จักตามร้านอาหารเวียดนามนั้น อย่างเช่น เส้นก๋วยเตี๋ยวห่อด้วยผักหรือเนื้อสัตว์ หน้าตาจะเหมือนป่อเปี๊ยะของคนไทย และป่อเปี๊ยะทอด ถือเป็นเมนูขึ้นชื่อของเวียดนามเลยทีเดียว และไม่ว่าจะรับประทานเมนูใดก็มักจะมีผักแกมเสมอ สถานที่ต่างๆในประเทศเวียดนาม ไปทำความรู้จักกับประเทศเวียดนามกันผ่านพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ กรุงฮานอย กันเลย เป็นสถานที่ที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆตั้งแต่ครั้งอดีตเป็นต้นมา สิ่งที่ได้กระทำผ่านมาและบุคคลที่ชาวเวียดนามให้ความเคารพ คุณสามารถมองผ่านมุมมองต่างๆของชาวเวียดนามผ่านทางพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ วิหารฮานอย วิหารเก่าที่สร้างเพื่ออุทิศให้แก่ขงจื๊อ มี 5 ชั้น มีชื่อสลักอยู่ชั้นบนสุด กล่าวว่า วิหารวรรณกรรม การตกแต่งตั้งแต่สวนทางเข้ามีความสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย เหมาะแก่การมาสักการะบูชา เนื่องจากที่นี่เป็นศาลขงจื๊อด้วย ดังนั้นเด็กนักเรียนหรือแม้กระทั่งนักศึกษาก็มักจะมาขอพรสถานที่แห่งนี้เนื่องด้วยความเป็นสิริมงคลในการสอบ เราไปต่อกันที่ธรรมชาติกันบ้างอย่าง ฮาลองเบย์ สถานที่สวยงามในแบบธรรมชาติ ชาวเวียดนามมีความภูมิใจในอ่าวแห่งนี้ เพราะความสวยงามของอ่าวฮาลองของเวียดนามนั้นติดอันดับของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกด้วยนั่นเอง บรรยากาศที่เงียบสงบ วิวทิวทัศน์อันแปลกตายามที่มองดูหินขนาดใหญ่มากมายหลายลูกลอยสลับกันอยู่ในอ่าวฮาลอง เหมือนมีบดิการ์ดที่คอยคุ้มคลองน่านน้ำแห่งนี้อยู่อย่างไงอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมในด้านใดก็ตาม สิ่งเหล่านี้มักซ่อนความสวยงามเอาไว้ภายในเพื่อรอให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายเดินทางไปเพื่อค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ และทำความรู้จักไปกับธรรมชาติเหล่านั้น อย่างเช่นเมื่อเราเห็นชุดประจำชาติที่ชาวเวียดนามสวมใส่เราก็จะสามารถทราบได้ทันทีว่า เขาคนนี้นี่แหละคือคนเวียดนาม

กินเที่ยวที่ฮานอย อร่อยที่ประเทศเวียนนาม

กินเที่ยวที่ฮานอย อร่อยที่ประเทศเวียนนาม

304

ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเวียดนามเป็นเชื้อสายจีนอย่างที่หลายๆคนทราบ ดังนั้นจึงมีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่ใกล้เคียงกับชาวจีน สถานที่ต่างๆจึงมีการก่อสร้างแบบทรงจีนซะส่วนใหญ่ แต่เนื่องด้วยมิได้อยู่ที่ประเทศจีนจึงทำให้มีเอกลักษณ์บางอย่างที่อาจแตกต่างกันบ้าง เพราะฉะนั้นจึงจะพาไปทำความรู้จักกับประเทศเวียดนามกันว่าพวกเขามีอะไรที่เป็นที่น่าสนใจบ้าง อย่างแรกคงเป็นประเด็นให้พูดถึงกันก่อนเลยกับการจราจรของประเทศเวียดนามที่ค่อนข้างจะหนาแน่นมาก อาจจะมีงุนงงตาลายได้ แต่ก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เที่ยวเวียดนามให้เต็มที่กันไปเลย เพียงแค่ต้องคอยระวังกันหน่อยเท่านั้นคะ เรามาเริ่มจากฮานอย เมืองหลวงของประเทศเวียดนามกันก่อนเลย วิหารวรรณกรรม วิหารแห่งนี้ในสมัยก่อนเคยเป็นโรงเรียนสอนเหล่าขุนนางและใช้ในการสอบราชการ โครงสร้างอาคารและกำแพงโดยรอบเป็นการสร้างแบบสถาปัตยกรรมแบบวัดจีน บริเวณโดยรอบโอบล้อมไปด้วยต้นไม้สร้างความร่มเย็นและเงียบสงบ ด้านในมีศาลเจ้าเพื่อบูชาเทพเจ้าขงจื้อและสวนด้านหน้าทางเข้าก็ตกแต่งตามสไตล์รูปแบบขงจื้อด้วยเช่นกัน ปัจจุบันวิหารแห่งนี้ได้กลายเป็นวัดที่มักจะมีเหล่านักเรียนนักศึกษาแวะเวียนมาขอพรในเรื่องของการสอบแทน วัดเจดีย์ของเวียดนาม วัดเจดีย์เสาร์เดียว เป็นอาคารชั้นเดียวรูปแบบเหมือนศาลาพักผ่อนของคนจีนแต่ที่พิเศษคือสร้างอยู่เดี่ยวๆกลางสระบัว ส่วนที่ค้ำไว้คือเสาร์กลมๆขนาดใหญ่หนึ่งต้น ซึ่งสร้างเพื่อเอาไว้บูชาเจ้าแม่กวนอิม และขอบุตรกับท่านและสร้างมานานกว่า 400 ปีแล้วด้วย ผู้คนที่ได้ไปเที่ยวประเทศเวียดนามจึงมักจะเดินทางไปเยี่ยมชมและขอพรในเรื่องของลูกกันที่นี่ สถานที่ต่อไปของเวียดนามหลายคนรู้จักแน่นอน อ่าวฮาลอง เป็นอ่าวที่มีความสวยงามมากจนมีชื่อเข้าไปอยู่ในมรดกโลก การชมอ่าวลองทำได้โดยการล่องเรือ ชมความงามของผืนน้ำ ภูเขาหินที่ขึ้นกระจายไปตามจุด แม้ว่าหากเรามองเผินๆจะเห็นภาพผืนน้ำนิ่งๆกับเหล่าภูเขาหินแต่เมื่อมองไปแล้วกลับรู้สึกสบายใจและเหมือนมีเสน่ห์ดึงดูดใจสักอย่างที่ทำให้คุณต้องรู้สึกว่าที่นี่สวยงามมาก ทั้งเงียบสงบและสดชื่น เรือจะพาคุณล่องไปเรื่อยๆเพื่อรับเอาบรรยากาศท่ามกลางอ่าวแห่งนี้ อาหารของชาวเวียดนามหลายคนคงเคยได้ยินกันมาว่า อาหารของชาวเวียดนามนั้นมักเน้นไปที่ผักใบสีเขียว ถูกต้องเลย เพราะอาหารของชาวเวียดนามเน้นไปที่ผักสีเขียวๆ และอาหารประจำชาติของเวียดนามก็คือ ปอเปี๊ยะ นั่นเอง มักจะกินแบบสดปอเปี๊ยะสดที่ที่ห่อด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวข้างในเป็นผักรวมมิตร บางเมนูก็จะใส่เนื้อสัตว์ด้วยตามที่ลูกค้าต้องการ หน้าตาของปอเปี๊ยะเวียดนามก็ไม่ต่างกันกับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนของคนไทยเลยจ๊ะ เมื่อได้ทานกับน้ำจิ้มที่เป็นสูตรประจำของแต่ละร้านหรือน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้วละก็อร่อยอย่าบอกใครเลย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารการกินแบบชาวเวียดน๊ามเวียดนามสามารถมาสัมผัสได้ด้วยตัวเอง รับรองว่าจะได้เห็นในสถานที่ที่แปลกตา จะได้รับประทานอาหารที่เปลี่ยนรสชาติของคุณไปแบบชาวเวียดนาม บอกเลยว่างานนี้ ได้ทั้งความรู้และความอร่อยชัวร์

เที่ยวดาลัด เมืองแห่งวัฒนธรรม

เที่ยวดาลัด เมืองแห่งวัฒนธรรม

372

ประเทศเวียดนาม อีกหนึ่งประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่น่าท่องเที่ยวไม่กับประเทศอื่น ๆ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความหลากหลายในเรื่องของการท่องเที่ยวที่แต่ละพื้นที่ แต่ละเมือง แต่ละภาคนั้นก็มีเอกลักษณ์ของการท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวแนวของการชมเมืองเก่า เมืองที่มีศิลปะและวัฒนธรรมสวยงามอย่างเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเมืองดาลัด ซึ่งเป็นเมืองที่สวยงามและเป็นที่นิยมในการมาเยือนของนักท่องเที่ยว ที่นอกจากเมืองแห่งนี้จะเป็นเมืองเก่าที่มีเอกลักษณ์ทางศิลปะและวัฒนธรรมแล้ว เมืองนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งเวียดนาม และได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งดอกไม้ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวสำหรับการเดินทางมายังสวนพฤกษศาสตร์ดาลัด หรือ Dalat Flower Garden สวนดอกไม้ที่มีดอกไม้เมืองหนาวๆ นานาชนิดบานสะพรั่งโชว์ความงามให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นไม้ดอก ไม้ประดับ กล้วยไม้หลายร้อยสายพันธุ์ที่แบ่งบานแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงฤดูกาล เรียกได้ว่ามีบรรยากาศที่สวยงามและโรแมนติกเหมาะสำหรับการมาท่องเที่ยวและถ่ายภาพของคู่รักเป็นอย่างมาก นอกจากสวนดอกไม้แล้ว เมืองดาลัดแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ได้แก่ พระราชวังฤดูร้อนของจักรพรรดิบ๋าวดั่ย ซึ่งเป็นที่ประทับของจักรพรรดิองค์สุดท้ายของเวียดนาม โดยพระราชวังฤดูร้อนบ๋าวดั่ยแห่งนี้ ประกอบด้วยอาคารอิมพีเรียล 3 หลัง โดยหลังที่เรียกว่า Dinh 3 เป็นอาคารที่ได้รับความนิยม และมีชื่อเสียงในการเข้าชมของนักท่องเที่ยวมากที่สุด เนื่องจากยังคงมีเอกลักษณ์ของความดั้งเดิม อีกทั้งยังมีเครื่องใช้ภายในบ้านซึ่งเป็นของเก่าที่หาดูได้ยากในสมัยอดีตเป็นจุดเด่น อีกทั้งห้องต่าง ๆ ภายในพระราชวังที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ไม่ว่าจะเป็น บัลลังก์จักรพรรดิเวียดนาม ห้องทรงงาน ห้องบรรทม ห้องอาหาร ก็เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก และอีกหนึ่งสถานที่ที่พลาดไม่ได้สำหรับการท่องเที่ยวเชิงศิลปะที่ใครมาดาลัดแล้วต้องห้ามพลาดในการมาเยือน นั่นคือ เครซี่เฮ้าส์ (Crazy House) บ้านรูปทรงแปลกประหลาด ที่รับรองว่าจะสามารถทำให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจกันได้เป็นแน่กับบ้านต้นไม้ที่ภายในแบ่งออกเป็นธีมต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน และยังมีแกลเลอรีศิลปะให้ได้ชมกันอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย สุดท้ายเมื่อเที่ยวเมืองดาลัดกันแล้ว คงต้องพาไปชิมอาหารของชาวเวียดนามกันสักหน่อย หลายคนคงจะเคยได้ลองชิมปอเปี๊ยะเวียดนามกันในประเทศไทยมาบ้างแล้ว แต่หากได้รับประทานปอเปี๊ยะของชาวเวียดนามแท้นั้น รับรองว่าจะต้องติดใจเพิ่มมากขึ้นกันอย่างแน่นอน ซึ่งเอกลักษณ์ความอร่อยของปอเปี๊ยะเวียดนามนั้นอยู่ที่ตัวแป้งซึ่งทำมาจากข้าวเจ้า ห่อไส้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหมูสับ กุ้ง หมูยอ รวมกับผักต่าง ๆ ได้แก่ สะระแหน่ ผักกาดหอม รับประทานคู่กับน้ำจิ้ม ถั่วคั่ว แครอท และหัวไชเท้าซอย รับรองว่าทานเล่นได้อย่างเพลิดเพลินแถมยังอร่อยอีกด้วย

อาหารเวียดนาม เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพเช่นคุณ

อาหารเวียดนาม เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพเช่นคุณ

311

ประเทศเวียดนาม เป็นประเทศหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มประชาคมอาเซียนเป็น 1 ใน 5 ผู้ร่วมก่อตั้งอาเซียน ทำให้มีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกับคนไทยเราเอง ไม่เพียงแต่วิถีชีวิตความเป็นอยู่ รสชาติของอาหารก็ใกล้เคียงกัน เพียงแต่ทางเวียดนามนั้นจะได้รับอิทธิพลในวัฒนธรรมจากจีนมาบ้าง อาหารหลายๆอย่างโดยเฉพาะอาหารท้องถิ่นประจำชาติ อย่างเฝอ เปาะเปี๊ยะ คนไทยก็ยังคุ้นหน้าตาและรสชาติกันเป็นอย่างดีอีกด้วย คุณสามารถเข้ามาท่องเที่ยวกันได้ตั้งแต่ตัวเมืองหลวงอย่าง กรุงฮานอยกันเลยนะคะ อาหารเวียดนามเป็นอาหารที่กินผักสดหลากหลายชนิดในแทบทุกเมนูรวมถึงพริก และมีน้ำจิ้มที่หลากหลาย เครื่องปรุงรสส่วนใหญ่เป็นแบบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาเวียดนามทั้งทีก็ต้องทานอาหารประจำชาติของที่นี่กันด้วยนะคะ อย่างเฝอ ซึ่งที่เวียดนามจะมีลักษณะเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ที่น้ำซุป และ เครื่องเคียง ในน้ำซุปที่เคี่ยวจากเนื้อวัว หรือเนื้อไก่ กระดูก หางวัว และเครื่องเทศบางชนิด เช่น อบเชยไซ่ง่อน เมล็ดดอกจันขิง กานพลูกระวานดำ เป็นต้น และตกแต่งด้วยหัวหอม ต้นหอม ผักชี ผักชีฝรั่ง สะระแหน่ โหระพา มะนาวหรือเลมอน ถั่วงอก และพริกหยวก สำหรับซอสบางอย่างที่เป็นที่นิยมได้แก่ ซอสฮอยซิน ซึ่งเต็มไปด้วยวัตถุดิบที่เป็นสมุนไพร และผักเพื่อสุขภาพ ต้องมาทานที่เวียดนามแล้วคุณจะได้ครบเครื่องจริง ๆ เปาะเปี๊ยะเวียดนาม เป็นหนึ่งในอาหารพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเวียดนาม แผ่นเปาะเปี๊ยะทำจากแผ่นแป้งที่ทำจากข้าวเจ้า โดยไส้เปาะเปี๊ยะอาจเป็นไก่ หมู กุ้ง โดยนำมารวมกับผักสมุนไพรอีกหลายชนิด เช่น สะระแหน่ ผักกาดหอม และนำมารับประทานคู่กับน้ำจิ้มหวาน โดยจะมีถั่วคั่ว แครอทซอย ไชเท้าซอย และบางครั้งอาจมีเครื่องเคียงอย่างอื่นเพิ่มด้วย นับเป็นอาหารยอดนิยมที่สามารถรับประทานได้ทั่วไปในเวียดนามมากมายด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ หาทานกันได้ง่าย ๆ เลย และอย่าลืมแวะพักและเที่ยวชมกรุงฮานอยเมืองหลวง ทั้งยามเช้า กลางวัน และยามค่ำคืน เพราะมีสีสันตลอดเวลา ในใจกลางของเมืองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งพิพิธภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของเอเชียแบบ outdoor สถาปัตยกรรมของฝรั่งเศสที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์แม้ว่าจะผ่านสงครามแล้วก็ตาม และที่เมืองฮานอยยังมีถนนคนเดินที่มีต้นไม้เรียงรายเป็นระเบียบน่าดูน่าชม แวะชมเจดีย์เตริ่นกว็อก ตั้งอยู่ริมทะเลสาบโฮไตซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮานอย เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในเวียดนาม เป็นเจดีย์สีชมพู คล้ายบุ๋นเก้าชั้นของจีน และขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งเสน่ห์มีทะเลสาบทั่วเมืองแล้วนั้นคุณก็ต้องมาพิสูจน์สัมผัสกับบรรยากาศของทะเลสาบสวย ๆ ที่ฮานอยกันให้ได้ เช่นอ่าวฮาลอง ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม เป็นต้น รับรองได้ว่าเมืองหลวงแห่งนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังและนอกจากนี้ยังมีอีกหลาย ๆ อย่างให้ทุกท่านได้มารู้จักกับเวียดนามมากขึ้น ทั้งได้สัมผัสบรรยากาศของสถานที่ ลิ้มรสชาติอาหารท้องถิ่นอร่อยถูกปาก ช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ และต้องมีคราวต่อไปอีกเป็นแน่แท้ที่คุณจตัดสินใจเลือกเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจ

เที่ยวเวียดนาม เมืองใกล้ๆ ที่ห้ามพลาด

เที่ยวเวียดนาม เมืองใกล้ๆ ที่ห้ามพลาด

317

ประเทศเวียดนามนั้นเป็นประเทศที่อยู่ไม่ไกลจากประเทศไทย ซึ่งหลายคนอาจจะมองข้ามเรื่องของการท่องเที่ยวประเทศนี้ไป ซึ่งบอกเลยว่าสำหรับใครที่มองข้าม คุณจะต้องเสียใจเนื่องจากประเทศนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ หรือการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อชมบ้านเมืองสวยๆ ของประเทศนี้ การท่องเที่ยวในประเทศนี้แบ่งออกได้เป็นหลายโซนและหลากหลายแนวมากขึ้นกับความชอบของนักท่องเที่ยว ซึ่งหากต้องการเที่ยวชมให้ประเทศนี้ให้หมดทุกมุมแบบเจาะลึกแล้วล่ะก็เชื่อว่าต้องใช้เวลาหลายวัน และเดินทางมาเที่ยวเพียงครั้งเดียวนั้นคงจะไม่พอ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการเที่ยวเชิงผจญภัยและชื่นชอบในเรื่องของธรรมชาติรวมถึงบรรยากาศแบบภูเขาที่ประกอบด้วยวิว บ้านเรือนและบ้านช่องที่สวยงาม คงจะต้องนึกถึงซาปา ชื่อที่หลายๆ คนคงจะคุ้นหู โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังวางแผนการเดินทางมาเที่ยวเวียดนามนั้น เมืองนี้เป็นเมืองแนะนำที่บอกว่าห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดสำหรับการมาเยือน เพราะซาปาสถานที่ท่องเที่ยวสุดแสนโรแมนติกในของจังหวัดลาวไค ในประเทศเวียดนามตอนเหนือ ใกล้กับชายแดนของประเทศจีน ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาสูง ทำให้มีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี และมีการปลูกพืช ผัก ผลไม้เมืองหนาวเป็นจำนวนมาก ซึ่งตามที่รู้กันว่าประเทศเวียดนามนั้นเคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศฝรั่งเศส ทำให้ในอดีตเมืองซาปานั้นถูกสร้างให้เป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาปกครอง เนื่องจากมีอากาศ วิวทิวทัศน์ และธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงยังเป็นเมืองที่เงียบสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อน จนมาถึงในปัจจุบัน ที่เมืองนี้เป็นเมืองที่ได้รับความนิยมในการมาท่องเที่ยวและการพักผ่อนเป็นอย่างมากทั้งของชาวเวียดนามเอง และนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ ด้วยความสวยงามของทุ่งนาข้าวแบบขั้นบันไดที่สวยงาม เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ และหากเป็นการเดินทางมาท่องเที่ยวในหน้าฝนด้วยแล้ว รับรองว่าจะได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศที่เขียวขจี และสูดกลิ่นอายความบริสุทธิ์ของทุ่งนาได้อย่างเต็มที่ นอกจากทำนาขั้นบันไดแล้ว ซาปา ยังมีความสวยงามตามธรรมชาติของน้ำตก คือ น้ำตกเตียนซาน และน้ำตกนางฟ้า ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนหย่อนใจกันอีกด้วย ในเรื่องของอาหารการกินที่จะไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับการเดินทางมาเวียดนามนั้น ก็คงจะเป็นเฝอ อาหารที่เมื่อเอ่ยชื่อแล้วทุกคนคงจะรู้จัก และนึกถึงประเทศเวียดนามกันอย่างแน่นอน เฝอ นั้นก็คือเกี๋ยวเตี๋ยวของเวียดนามที่ต่างกับก๋วยเตี๋ยวของไทยโดยเส้นจะเป็นเส้นกลมๆ สีขาวขนาดใหญ่กว่าขนมจีน รับประทานกับน้ำซุปที่เคี่ยวจากเนื้อวัวหรือเนื้อไก่ คู่กับเครื่องเคียง และผักต่างๆ ได้แก่ หัวหอม ต้นหอม ผักชี ผักชีฝรั่ง สะระแหน่ โหระพา มะนาว ถั่วงอก และพริกหยวก เป็นต้น

ซาปา เมืองหมอกสุดโรแมนติกแห่ง เวียดนาม

ซาปา เมืองหมอกสุดโรแมนติกแห่ง เวียดนาม

381

ซาปา อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ เวียดนาม เป็นเมืองที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี บางวันมีหมอกลงหนาจัด จึงทำให้ที่นี่เพาะปลูกพืชผักผลไม้เมืองหนาวได้เป็นอย่างดี เป็นดินแดนที่มีขุนเขามากมาย มีอากาศที่ดีบริสุทธิ์ อีกทั้ง ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยสดงดงาม มีหลากหลายชนเผ่าที่อาศัยอยู่ ซึ่งแต่ละชนเผ่าก็จะมีวัฒนธรรมการแต่งกาย สำเนียง ที่แตกต่างกันออกไป ผู้คนที่นี่จะมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย นิยมทำนาแบบขั้นบันไดท่ามกลางไหล่เขา มีชาวเขาบางส่วนนำของที่ทำเองมาขายให้กับนักท่องเที่ยว คล้ายของชาวเหนือบ้านเรา ก็ถือว่าเป็นบรรยากาศวิถีชีวิตอีกอย่างหนึ่ง ที่แห่งนี้มีความสวยงามและโรแมนติกไปในตัว ถ้าหากได้มาช่วงปลายฝนต้นหนาวแล้วล่ะก็ จะยิ่งสวยขึ้นไปกันใหญ่ เพราะจะเห็น นาข้าว ต้นไม้ และขุนเขา เขียวขจีไปทั่ว ซาปา จึงเป็นที่นิยมของทั้งชาวเวียดนาม และชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก เพราะเป็นที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อน ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ อยู่แบบพอเพียงมากๆ แต่ก็ยังมีความสะดวกสบายมากขึ้น เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงมีโรงแรม ร้านอาหาร เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งจะมีการผสมผสานการออกแบบแนวตะวันตกร่วมด้วย สถานที่เที่ยวในละแวกเมืองหมอกแห่งนี้มีมากมาย ล้วนเป็นธรรมชาติทั้งนั้น และแต่ละที่อยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก อย่างเช่น

เพลินครบสูตรไปกับทุกสิ่ง ในเมืองญาจาง ( Nha Trang) ของเวียดนาม

เพลินครบสูตรไปกับทุกสิ่ง ในเมืองญาจาง ( Nha Trang) ของเวียดนาม

329

ประเทศเวียดนาม นับว่าเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย เรียกได้ว่ามาแล้วเมื่อพลาดไปแต่ละที่ ก็ต้องเสียดายเอามาก ๆ เป็นแน่ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังคงความงดงาม และมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกหลายแห่งด้วยกัน อีกทั้งการเดินทางก็สะดวก สถานที่ท่องเที่ยวที่มีมนตร์เสน่ห์อย่างน่ามหัศจรรย์ในประเทศเวียดนามที่จะนำมาฝากกันก็คือ การเยือนเมืองญาจาง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของ เวียดนาม ซึ่งเป็นเมืองที่มีชายหาด อันเป็นที่ได้รับความนิยมของประเทศเวียดนาม ด้วยเป็นที่ตั้งของชายหาดที่มีสีทอง ทอดยาวราว 6 กิโลเมตร ไปพร้อมกันกับวิวทิวทัศน์ของทิวเขา และอยู่ไม่ไกลจากหมู่เกาะอื่น ๆ โดยเป็นที่ยอมรับกันเป็นอย่างมากว่า ชายหาดนี้สวยที่สุดในโลก มีแสงอาทิตย์ค่อนข้างแรงจึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการนอนอาบแดดให้ผิวเป็นสีแทนกัน ที่นี่จึงถือเป็นจุดหมายที่สมบูรณ์ ให้ทุกคนที่คลั่งไคล้ในกีฬาทางน้ำ การอาบแดด และการดำน้ำที่มีชื่อเสียงเป็นเป้าหมายของนักดำน้ำจากทั่วทุกมุมโลก ที่เลือกมาเยือน เวียดนาม และด้วยมีปลาหลากชนิดและปะการังสวยๆ อันเลื่องชื่ออยู่เต็มไปหมด จุดเด่นของญาจางไม่ได้มีเพียงแค่การดำน้ำดูปะการังเท่านั้น ยังคงมีน้ำพุร้อนทัปบา ที่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาประทินผิวด้วยโคลนกัน โดยการนำตัว ลงไปแช่ให้เปรอะเปื้อน เพื่อที่จะทำการขัดผิวพรรณขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิว และเป็นการผ่อนคลายผิว ด้วยมีแร่ธาตุที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่อผิว และที่นี่ก็ยังมีสวนน้ำขนาดใหญ่ที่ชื่อ Vinpearl land ที่ถือเป็นแดนมหัศจรรย์สำหรับเด็กๆ และผู้ที่ชอบความตื่นเต้น ด้วยที่นี่เป็นที่ตั้งของสไลด์เดอร์น้ำสุดเจ๋ง และยังมีเครื่องเล่นต่างๆ กับ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่คอยบริการนักท่องเที่ยวให้ได้ลองมาสัมผัส ได้มาเยี่ยมชม ทักทายกันที่ เวียดนาม นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นสวรรค์ของนักชิมที่ชื่นชอบอาหารประเภทพื้นบ้าน ก็สามารถหาลิ้มชิมรสกันได้ที่นี่เช่นกัน อย่างเช่น บุ๋นจ่า bun cha ซึ่งแปลว่าขนมจีน และเป็นอาหารหลักอีกชนิดรองจากข้าว ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็น 1 ใน 10 ของ World’s best street food ซึ่งเป็นเมนูโด่งดังมากๆในหมู่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวตะวันตกทั้งหลาย ที่เมื่อได้ลองชิมก็ต่างติดใจในเมนูนี้แทบทุกคน โดยเป็นอาหารที่ปรุงขึ้นจากขนมจีนคล้ายก๋วยเตี๋ยว ประกอบด้วยหมูหมักหรือหมูสับหมักเป็นชิ้นแบนๆ นำมาย่างบนเตาถ่าน รับประทานพร้อมขนมจีนและผักชนิดต่างๆ นอกจากนี้จะมีมะนาวและพริกเตรียมไว้ให้ด้วย เพื่อไว้ให้ปรุงรสตามชอบใจ นอกจากจะรับประทาน บุ๋นจ่ากันในวันธรรมดาแล้วเมนูนี้ชาว เวียดนาม ยังนิยมนำมาจัด สำหรับใช้ในงานสังสรรค์ต่างๆ กันอีกด้วย